11
เมษายน 2555
ไม่ชอบแข่งราคา
เมื่อวันก่อนมีอีเมล์มาให้ผมเสนอควอเตชั่น
และการวางระบบบัญชี โดยระบุว่ากิจการประเภทนู่นี่นั่น ผมก็ตอบกลับไปว่าต้องโทรเข้ามาสอบถาม
ทั้งเรื่องสถานที่ตั้งและอะไรตั้งหลายอย่างที่มีปัจจัยในการตีราคา
แต่ผมตบท้ายในอีเมล์ว่า ผมเป็นคนไม่ชอบเสนอราคาแข่ง เพราะเรื่องบัญชีมันน่าจะเป็นเรื่องของความมั่นใจของลูกค้า
ถ้ามั่นใจสำนักงานบัญชีไหนก็เรียกเข้ามาคุย กิจการสำนักงานบัญชีไม่ใช่ขายของ
หรือขายบริการประเภทอื่น
เท่านั้นแหละมีอีเมล์กลับมาต่อว่าผมรุนแรงแต่ผมไม่โกรธนะครับ
คือถ้าว่าไม่เข้าใจสิ่งที่ผมเขียน ผมก็ไม่ควรอธิบายอะไรอีกต่อไปแล้ว
ผมก็คิดของผมอย่างนี้ผมไม่รู้ว่านักบัญชี หรือสำนักงานบัญชีที่อื่นคิดเหมือนกันหรือไม่
ก่อนจะมาถึงความคิดตรงนี้อยากจะบอกว่าด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายปี
ได้พบเจอกับบริษัทที่แวะเวียนเข้ามาหามากมาย และคำตอบก็คล้ายกันคือขี้เกียจเสนอราคาเพื่อแข่งขัน
ผมมองว่าอาชีพสำนักงานบัญชี มันเข้าไปเกาะกุมหัวใจของธุรกิจ คือเราจะรู้ทุกเรื่องของธุรกิจนั่นดีเลวในสภาวะนั้นเรารู้เกือบทั้งหมด
แล้วจะมีประโยชน์อะไรที่ผู้ที่หาสำนักงานบัญชีต้องการเพียงของถูก
นอกจากนั้นยังมีประเด็นเรื่องเรียกผมเข้าไปพบเพื่อสอบถามหลายอย่างเกี่ยวกับภาษี
และระบบบัญชี คือให้เปิดพุงสิ้นใส้สุดท้ายก็กลับไปให้สำนักงานบัญชีเดิมทำ
โดยใช้ข้อมูลของผมเข้าไปต่อลองกับสำนักงานบัญชีเดิม ผมเจอแบบนี้บ่อยก็เลยเริ่มไม่อยากไป
หรือถ้าไปผมก็ไม่อยากเสนออะไรมาก ผมว่าลูกค้าแบบนี้ผมก็ไม่อยากได้ลักษณะจะไม่จริงใจมากกว่า
ผมเคยผ่านงานแบบอื่นมาแล้วเคยเจอแบบนี้มาเยอะ เคยเจอถึงขนาดลอกหัวสมองแล้วไปให้คนอื่นทำ
คือขโมยความคิดขโมยโปรเจ็คกันเลย แล้วคนแบบนี้ถ้าให้ผมทำงานด้วยผมจะปฎิเสธทันที
นักบัญชีมีองค์ความรู้แต่ละคนแตกต่างกันครับ
ไม่เหมือนกันหรอกมันอยู่ที่การหาความรู้ใหม่ ๆ มาใส่ตัวเจอเครสบ่อยด้วยมีลูกค้ามาก
รวมทั้งการอ่านหนังสือเยอะอ่านข่าวเยอะ การมีเพื่อนที่อยู่ในองค์กรต่างๆ
เยอะและได้มีการอัพข้อมูลอย่างต่อเนื่องก็มีผลให้การตัดสินใจในหลายๆ
เรื่อง บริษัทที่แห่งนี้ยังถือว่ามีลูกค้าไม่มากนักประมาณ 70-80
รายแต่ด้วยความที่การทำงานของที่นี่จะเอาใจใส่รายละเอียดลูกค้าเป็นอย่างมากมันทำให้เราต้องการข้อมูลมากเพื่อตีราคาเช่นเดียวกัน
การตีราคาค่าบริการทำบัญชีของที่นี่มันเป็นแพทเทิร์น
ที่มันฝังอยู่ในหัวสมองของผมรวมทั้งพนักงานทุกคน โดยข้อมูลเบื้องต้นลูกค้าอยู่ที่ไหนถ้าไกลผมก็จะปฎิเสธที่จะรับครับ
ที่นี่จึงมีแฟรนไชส์สาขาอยู่ด้วยเพื่อตอบว่าผมเองก็ไม่อยากรับลูกค้าไกล
เพราะต้นทุนของสำนักงานบัญชี นอกจากที่เราเห็นกันง่ายๆ พนักงานน้ำไฟ
โทรศัพท์ เครื่องใช้สำนักงานต่าง ๆ แล้วค่าเดินทางเป็นต้นทุนหลักที่เราต้องบวกเข้าไปในค่าบริการ
คราวนี้มาถึงขั้นตอนการตีราคาผมก็ต้องดูก่อนว่าลูกค้าอยู่ที่ไหนอันดับแรก
เพราะมีผลต่อราคาผมจะตีราคาเริ่มต้นจาก ค่าเมสเซ็นเจอร์ที่คิดเป็นเที่ยวตามอัตราทั่วไป
หลังจากนั้นลูกค้าทำเกี่ยวกับอะไร มีเอกสารมากน้อยแค่ไหนเอาที่เกี่ยวข้องจริงๆ
ครับพวกใบสำคัญจ่ายไม่นับ มีพนักงานกี่คนมีรายได้ต่อเดือนประมาณเท่าไร
เพื่อจะมาประเมินระยะเวลาการทำงานจะใชัเวลากี่วันต่อเดือน สำหรับพนักงานบัญชี
1 คนเอาเงินเดือนเงินพิเศษโบนัส ถอดออกมาเป็นรายวัน รวมทั้งค่าเอกสารค่าหมึกพิมพ์ค่าโทรศัพท์ที่ผมต้องใช้สำหรับลูกค้ารายนั้น
และเรื่องสุดท้ายจะให้สำนักงานบัญชีทำอะไรให้บ้าง
การตีราคาแบบนี้บางครั้งผมก็ตีราคาให้ลูกค้าแล้วบอกก่อนเลยว่าในอนาคตผมต้องขึ้นราคา
โดยบอกล่วงหน้าเป็นปีไม่เคยขึ้นราคาระหว่างทาง ระหว่างปี นอกจากนั้นที่นี่ยังมีการลดราคาให้ลูกค้าด้วย
เช่นกิจการของลูกค้ารายได้ลดลง หรือได้รับผลกระทบจากอะไรก็แล้วแต่
เช่นได้รับผลกระทบจากการชุมนุมประท้วงผมก็ลดให้ น้ำท่วมปีที่ผ่านมาลูกค้ารายไหนได้รับผลกระทบผมก็ลดให้
โดยไม่ีมีคำน้อยจากลูกค้าที่ขอลดราคา ส่วนลูกค้าบางรายผมคำนวณแล้วรายเดือนขาดทุน
จากการย้ายสถานที่ตั้งซึ่งความจริงผมจะขอปฎิเสธไปแล้วแต่เพื่อไม่ให้ลูกค้าสะดุดจากการทำบัญชี
ก็จะมีการเจรจาเพื่อเพิ่มราคาโดยบอกล่วงหน้า 1 ปี เป็นราคาที่เหมาะสมไม่ใช่แพงเว่อร์
หรือถูกโคตรพอคำนวณรายรับกับรายจ่ายที่เกริ่นไม่ข้างต้นดูแล้วขาดทุนผมก็เจรจา
ถ้าไม่ได้ก็เลิกทำไม่มีอะไรซับซ้อนบอกลูกค้าให้เตรียมหาสำนักงานบัญชีใหม่
ผมปฎิเสธแบบนี้ไปหลายรายแล้วนะครับ
จุดแรกที่เราเห็นก็คือ
คุณให้ความสำคัญกับงานของสำนักงานบัญชีแค่ไหน หรือเป็นแค่คนบันทึกบัญชี
ออกงบการเงินแค่นั้นเหมือนจะบอกว่าฉันก็ทำได้ ผมมักจะให้ลูกค้ากลับไปทำเอง
สิ่งที่ปรากฎเป็นตัวหนังสือชิ้นนี้ไม่ใช่เพื่อระบาย
แต่เป็นรายละเอียดของงานบัญชีที่เราทำครับ
สาม
สอเสือ